คลอโรเดย์ (Chloroday)

ขาย คลอโรเดย์ (Chloroday) ราคา xxx บาท ช่วยล้างสารพิษในเลือด แก้อ่อนเพลีย ปรับสมดุลในเลือด ทำให้ผิวพรรณดี สดใส

โคลโรเดย์ chloroday p5
อาหารเสริมแบบชงดื่ม โคลโรเดย์ chloroday p5
ส่วนประกอบสำคัญ คลอโรฟิลล์ 50 มก. ใยอาหารอินนูลิน 4,00 มก.
และ วิตามิน ซี 30 มก.
ราคา 1,150 บาท 1 กล่อง บรรจุ 15 ซอง
อย. เลขที่ 10-1-02050-1-0008
 
วิธีการใช้ อาหารเสริมแบบชงดื่ม คลอโรเดย์
กลางวัน ผสม Chloroday 1 ซองลงในน้ำเย็น 0.5 - 1 ลิตร คนหรือเขย่าให้เข้ากันแล้วดื่มให้หมด ในหนึ่งวันอย่าทานข้ามวัน เพราะวิตามินซีจะเจือจาง
1. ใยอาหาร (อินนูลิน) ในอาหารเสริมแบบชงดื่ม
ป้องกันมะเร็งลำไส้ ด้วยใยอาหาร
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
 
อาการท้องผูกเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศโลกตะวันตกประชากรเกือบทุกคนประสบปัญหาท้องผูกกันถ้วนหน้า แต่ยังไม่มีใครสนใจจริงจัง ภญ.กรรณิการ์ เอกศักดิ์ บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด เล่าว่า อาการท้องผูก เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศโลกตะวันตก ประชากรเกือบทุกคนประสบปัญหาท้องผูกกันถ้วนหน้า แต่ยังไม่มีใครให้ความสนใจกับอาการนี้กันอย่างจริงจัง
ซึ่งหากมีอาการท้องผูกบ่อยๆ ก็จัดได้ว่าเป็นโรคภัยชนิดหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามไป บางท่านอาจคิดว่าการขับถ่ายอุจจาระเป็นประจำไม่ใช่สิ่งจำเป็น คิดว่าการไม่ได้ถ่ายนานๆ 3 ถึง 4 วันก็ไม่มีอันตรายใดๆ แต่ในความจริงการกินอาหารทุกวัน ร่างกายก็จะมีการย่อยทุกวัน เราก็ควรขับถ่ายทุกวันด้วยเช่นกัน
ลำไส้ใหญ่ของเราเป็นอวัยวะส่วนที่จะเก็บอุจจาระไว้ซึ่งจะดูดซับสารเคมีหลายชนิดที่ปะปนอยู่ในอุจจาระ ซึ่งบางชนิดอาจเป็นพิษต่อร่างกายได้ ยิ่งปล่อยให้อุจาระหมักหมมในลำไส้ใหญ่นานเท่าใด โอกาสที่จะเกิดเป็นอันตรายก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
อีกทั้งอุจจาระของเสียเหล่านี้ ยังเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อแบคทีเรียก่อโรคที่อาศัยอยู่ในลำไส้ ทำให้มีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นหมายถึงการเพิ่มปริมาณของสารพิษ ของเสีย รวมทั้งแก๊สกลิ่นเหม็น อันจะทำให้เกิดอาการอึดอัด แน่นท้อง อ่อนแอ เจ็บป่วย หรือเกิดโรคริดสีดวงทวาร และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
การรักษาโรคท้องผูก ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีปัญหาก็มักจะรักษาอาการด้วยตัวเองเป็นหลัก เริ่มจากการใช้ยาระบายหรือยาถ่ายในรูปต่าง ๆ ซึ่งยาพวกนี้มีตั้งแต่ที่ไม่เป็นอันตรายอะไรไปจนถึงอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เมื่อใช้เป็นประจำและเป็นระยะเวลานาน เพราะถ้าใช้ปริมาณมากเกินไปจะทำลายระบบประสาทที่อยู่บริเวณลำไส้ใหญ่ได้ ทำให้การบีบตัวของลำไส้ใหญ่เสียไป ต้องพึ่งการใช้ยาตลอดชีวิต
นอกจากการใช้ยาแล้ว บางท่านก็จะใช้กลุ่มของไฟเบอร์ชนิดเม็ด แคปซูล หรือผง เช่น เมล็ดแมงลัก ใยอาหารจากหัวบุกซึ่งเป็นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ เพื่อเพิ่มปริมาณกากอาหารที่เป็นอุจจาระให้มีปริมาณมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อของลำไส้ใหญ่เร่งการขับถ่ายให้เร็วขึ้น
ปัจจุบัน ด้วยวิทยาการใหม่ ได้มีการพัฒนาเส้นใยอาหารบริสุทธิ์ อินนูลิน ซึ่งเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำ นอกจากจะช่วยรักษาอาการท้องผูก ทำให้อุจจาระนุ่มขึ้นสามารถขับถ่ายได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้ และ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ โดยใยอาหาร อินนูลิน ถือเป็นพรีไบโอติก ที่มีคุณสมบัติ ละลายในน้ำ ไม่ถูกย่อย และดูดซึมในทางเดินอาหารของร่างกาย แต่จะถูกหมักเป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ ซึ่งอาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา
โดยจุลินทรีย์สุขภาพโดยเฉพาะชนิดปิฟิโดแบคทีเรีย จะมีความสำคัญต่อเรื่องภูมิต้านทานของร่างกาย ช่วยส่งเสริมการสร้างวิตามินบี และการสังเคราะห์สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อตับ ถือว่าเป็นจุลินทรีย์ที่มีความสำคัญ ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้ใหญ่ เพราะในช่วงเด็กแรกเกิด ลำไส้จะไม่มีจุลินทรีย์ชนิดนี้ จะได้รับจากน้ำนมแม่ ส่วนผู้ใหญ่เมื่ออายุมากขึ้นปิฟิโดแบคทีเรียในร่างกายจะลดจำนวนลง ดังนั้น เราจึงพบว่า ผู้ที่มีปัญหาท้องผูก หรือร่างกายอ่อนแอ มักพบปิฟิโดแบคทีเรียน้อยกว่าคนทั่วไป
ใยอาหารชนิดอินนูลินนี้ ได้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อลดอาการท้องผูก และจากงานวิจัยยังพบว่า อินนูลินมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น ส่งเสริมให้จุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้เจริญเติบโต ,ป้องกันการติดเชื้อ และสภาพจุลินทรีย์ในลำไส้ให้อยู่ในภาวะสมดุล , เพิ่มการดูดซึมของแร่ธาตุบางชนิด
เช่น แคลเซี่ยม,แมกเนเซียม และธาตุเหล็ก
ปัจจุบันได้มีการสกัดอินนูลิน มาทำในรูปผงชงดื่ม บรรจุซอง ชื่อ นูลินใช้ชง 1 ซองต่อน้ำเย็น 1 แก้วซึ่งจะให้ใยอาหารสูง ทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น และอุจจาระนุ่มขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย ท้องผูก ริดสีดวงทวาร หรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่ชอบทานผักผลไม้
 
2. เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวิตามินซี (Vitamin C)
 
วิตามินซี (Vitamin C) ข้อมูล:นพ.ครรชิต อมาตยกุล
 
ที่มา :หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
 
เมื่อพูดถึงวิตามินซี หลายคนคงนึกถึงผลไม้รสเปรี้ยว อย่างเช่น ส้ม มะนาว ฝรั่ง มะขามหวาน มะขามป้อมและอีกมากมาย ขอเพียงแต่เป็นผักผลไม้สดๆ เป็นใช้ได้ หรือบางคนอาจนึกถึงยาเม็ดสีส้ม สีเหลือง ที่มีรสชาติออกเปรี้ยวๆ หวานๆ ไว้กินเวลามีเลือดออกตามไรฟัน ในความเป็นจริงแล้ววิตามินซีมีประโยชน์มากมายกว่านั้น
วิตามินซี มีประวัติการค้นพบตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 มีการสังเกตว่าทหารเรือออกเดินเรือเป็นระยะเวลานานๆ ไม่ได้รับประทานผักและผลไม้สด จึงมักป่วยเป็นโรคลักปิดลักเปิด และสุขภาพไม่ค่อยดี แต่ก็มีคนสังเกตเห็นว่าไม่พบอาการดังกล่าวในทหารเรือที่รับประทานมะนาวเป็นประจำ ต่อมาจึงได้หาสารอาหารที่เป็นต้นเหตุได้ คือ กรดแอสคอร์บิก (Ascorbicacid) หรือวิตามินซีนั่นเอง
ประโยชน์ของวิตามินซีมีมากมาย นอกเหนือจากที่จะช่วยบรรเทาอาการของโรคหวัดทำให้หายเร็วขึ้นถึง 21% คือ
  • วิตามินซีช่วยปกป้องเซลล์ เสริมภูมิคุ้มกันสุขภาพและความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับเส้นเอ็นและคอลลาเจน
  • วิตามินซีช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เนื่องจากช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเอง โดยการไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและต่อต้านการอักเสบ จึงทำให้แผลหายเร็ว
  • วิตามินซีช่วยให้เหงือกมีสุขภาพแข็งแรง โดยจะไปช่วยรักษาเซลล์ที่ถูกทำลาย และช่วยให้แผลที่เหงือกหายเร็ว
  • วิตามินซีช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ โดยการไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานร่วมกับวิตามินอี โดยจะไปลดการเกาะของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
  • วิตามินซีช่วยในการป้องกันโรคต้อกระจก เนื่องจากวิตามินซีสามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ แสงอัลตราไวโอเลต ที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคต้อกระจก
  • วิตามินซีช่วยป้องกันไมเกรน เมื่อรับประทานร่วมกับ Pantothenic acid โดยวิตามินซีจะไปช่วยร่างกายในการต่อสู้กับความเครียดได้ดีขึ้น
  • วิตามินซีช่วยลดความเครียด และยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนกรดอะมิโนให้กลายเป็นสารในสมอง ซึ่งมีความจำเป็นต่อสมองและหน้าที่ของระบบประสาทด้วย
  • วิตามินซีช่วยเพิ่มความแข็งแรงของภูมิต้านทานโรค โดยเฉพาะประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาว
การรับประทานวิตามินซี ภาวะปรกติปริมาณที่แนะนำให้ทานคือ 60 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม เพื่อสุขภาพที่ดีจะต้องรับประทานอย่างน้อย 100-200 มิลลิกรัมต่อวัน คนที่มีความเครียดควรรับประทานวันละ 500 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ที่นิยมรับประทานวิตามินซีไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับในปริมาณที่มากเกินไป เพราะสามารถละลายในน้ำได้ดี หากร่างกายไม่ได้ใช้ก็จะมีการขับออกมาได้ทางปัสสาวะ อีกทั้งยังไม่มีการรายงานเกี่ยวกับพิษที่เกิดจากการรับประทานวิตามินซี แม้รับประทานในปริมาณที่สูงกว่า 6,000-18,000 มิลลิกรัม
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อพึงระวังในการรับประทานวิตามินซี การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการดูดซับแร่ธาตอื่นๆ เช่น Copper Selenium อาจมีผลต่อความผิดพลาดของผลการตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะได้ วิตามินซีทำให้การดูดซึมแร่ธาตุเหล็กได้ดี จึงอาจจะเกิดภาวะได้รับแร่ธาตุเหล็กเกิน.
3. คลอโรฟิลล์ ( Chlorophyll )
คลอโรฟิลล์ ( Chlorophyll )
มหัศจรรย์คลอโรฟิลล์ เลือดสีเขียวจากพืชเพื่อล้างพิษให้เลือดสีแดงของคน คลอโรฟิลล์ คือสารประกอบที่ทำให้พืชมีสีเขียวและทำหน้าที่หลัก คือ สังเคราะห์แสง (Photosynthesis) โดยการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และแร่ธาตุต่าง ๆ จากดินให้กลายเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งให้ก๊าซออกซิเจนที่สำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์
จากผลงานการวิจัยในเรื่องนี้ ส่งผลให้ผู้วิจัยได้รับรางวัลโนเบล (Nobel Prize) ไปแล้วถึง 2 ท่านด้วยกัน คือ ดร.ริชาร์ด วินสเตตเตอร์ (DR.RICHARDWINSTATER) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออสเตรีย ในปี ค.ศ.1915 และ ดร.ฮันส์ ฟิชเชอร์ (DR.HANS FISHER M.D.) นายแพทย์ชาวเยอรมัน ในปีค.ศ. 1930 ผู้ซึ่งค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างเม็ดเลือดแดงและคลอโรฟิลล์
ประโยชน์การกิน : คลอโรฟิลล์
• ทำให้สดชื่น หายเหนื่อยจากการอ่อนเพลีย
• เพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้ระบบเลือดไหลเวียนดี
• ลดปัญหาเรื่องสิว ฝ้า ปวดประจำเดือน และประจำเดือนมาไม่ปกติ
• ลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ
• ปรับระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
• ทำให้อาการโรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ ผื่นลมพิษ ทุเลาลง
• ขับกรดจากข้อต่างๆ ทำให้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัวทุเลา
• ขับสารพิษออกจากร่างกาย เช่น สารตกค้างของยาปฎิชีวนะ สารเคมีตกค้างในอาหาร
• ป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
• แก้ปัญหาท้องผูก การขับถ่ายจะดีขึ้น ริดสีดวงทวารทุเลาได้
• ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก และ กลิ่นเท้า
• บรรเทาอาการชา บวม และเส้นเลือดขอดให้ทุเลาได้
• ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ใช้รักษาแผลอักเสบ แผลเปื่อย แผลเรื้อรัง แผลถลอก เหงือกอักเสบ แผลในปาก
• บรรเทาอาการปวดศีรษะทั่วไป และปวดศีรษะไมเกรนได้
• ช่วยให้ผู้ที่เป็นต้อกระจกมองเห็นดีขึ้น
• มีสารอาหารที่บำรุงเส้นผม ทำให้ผมหงอกดำขึ้น ช่วยลดอาการผมร่วง
• สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานจะช่วยล้างน้ำตาลในเลือด และช่วยให้แผลแห้งเร็วขึ้น ดีขึ้น